วันนี้ (02ต.ค.62) สำนักงานตรวจการและความร่วมมือการพนันของมาเก๊า เปิดเผยรายได้ของอุตสาหกรรมคาสิโนประจำเดือนก.ย.อยู่ที่ 22,100 ล้านปาตาการ์หรือมากกว่า 84,000 ล้านบาท โดยแม้จะเพิ่มขึ้น 0.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กลับอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 1 ปี และยังเป็นการเทียบกับเดือนก.ย.ปี 2018 ซึ่งเป็นช่วงที่มาเก๊าเผชิญกับไต้ฝุ่นมังคุดจนต้องปิดแหล่งการพนันไปถึง 33 ชั่วโมงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่รายได้ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ยังปรับตัวลดลง 1.7% อยู่ที่ 220,300 ล้านปาตาการ์หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 840,000 ล้านบาท
ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของคาสิโนในมาเก๊า เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลง 1.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1.3 ล้านคน จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่ 3.62 ล้านคน โดยเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ส่งผลกระทบต่อกำลังใช้จ่ายของชาวจีน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบจากการประท้วงในฮ่องกงและการเดินหน้ากวาดล้างเงินทุนผิดกฎหมายซึ่งมักใช้ธุรกิจพนันของมาเก๊าเป็นทางผ่าน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางการจีนแผ่นดินใหญ่และมาเก๊าได้เพิ่มการตรวจสอบทรัพย์สินที่โอนเข้ามายังมาเก๊าอย่างเข้มงวด เพื่อกวาดล้างเงินทุนที่ไหลออกมาจากแผ่นดินใหญ่และมาปล่อยกู้ใต้ดินอย่างผิดกฎหมายในมาเก๊า ซึ่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา จีนได้ยึดทรัพย์สินผิดกฎหมายในลักษณะดังกล่าวกว่า 30,000 ล้านหยวนหรือราว 128,000 ล้านบาท โดยการกวาดล้างดังกล่าวทำให้ต้องมีการตรวสอบอย่างเข้มงวดกวดขัน ส่งผลให้บรรดาแขกวีไอพีเดินทางมาเล่นคาสิโนในมาเก๊าได้ยากขึ้น
